แม้ว่า การซักผ้า จะอยู่กับวิถีชีวิตของคนเรามาอย่างช้านาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายครั้งหลายหนที่เราต้องการจะขจัดคราบสกปรก รอยเปื้อน ในขณะที่ต้องคงความสดใสและความเนี้ยบให้กับเนื้อผ้านั้นก็ยากที่จะทำไปพร้อมๆ กัน เพราะบางทีขยี้มากไปเสื้อผ้าชุดสุดสวยของเราก็ยับเยินเอาได้ง่ายๆ หรือจะลองน้ำยาซักผ้า น้ำยาขจัดคราบสกปรกบนผ้าที่ใครๆ ว่าดังว่าดี แต่ลองกี่ทีก็ไม่เห็นจะได้ผล ดังนั้นเรื่องที่หลายคนมองว่าง่ายอย่างการทำความสะอาดเสื้อผ้า บางทีก็กลายเป็นเรื่องที่ยากและลำบากทั้งกายทั้งใจเลยก็ว่าได้

ศาสตร์แห่ง การซักผ้า ที่ช่วยให้ผ้าสะอาดเหมือนใหม่ได้ตลอดเวลา

การจะทะนุถนอมดูแลเสื้อผ้าตัวโปรดให้สวยเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาสำหรับคนที่ต้องซักผ้าเองนั้นในปัจจุบันดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย เพราะแค่เอาผ้าเข้าเครื่องกดปุ่มตั้งอัตโนมัติ เครื่องก็ซักให้เราเรียบร้อยแล้ว แต่การใช้วิธีเดิมๆ กับผ้าที่แตกต่างชนิดกัน บางทีผลลัพธ์ก็อาจจะทำให้เราเสียเสื้อผ้าตัวโปรดได้ ดังนั้นลองมาดูกันเลยว่า เรื่องอะไรที่เราควรรู้ก่อนเริ่มต้นลงมือซักผ้า

new clothes color guard

ตั้งค่าเครื่องซักผ้า

การตั้งค่าเครื่องซักผ้าให้เหมาะสมกับประเภทของผ้านั้นสำคัญมาก เพราะจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการทำความสะอาดเสื้อผ้า เช่น การเลือกใช้ความยาวรอบให้เหมาะสม(จับเวลา) เครื่องรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มักจะมีปุ่มแสดงแยกเป็นหมวดหมู่สำหรับ การซักผ้า ประเภทต่างๆ เช่น เสื้อผ้าธรรมดา 60 นาที ชุดเครื่องนอน 90 นาที ดังนั้นการเลือกความยาวรอบนั้นสำคัญมากๆ เพราะเป็นระยะเวลาที่เครื่องจะทำความสะอาดเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับชนิดผ้าที่นำไปซัก อาทิเช่น การใช้รอบที่สั้นกว่าสำหรับเสื้อผ้าที่มีความบอบบาง จะลดความเสี่ยงในการเสียหายของเนื้อผ้าได้ การเลือกใช้รอบที่ยาวกว่าสำหรับเสื้อผ้าที่สกปรกมากก็จะช่วยขจัดคราบได้ดีเป็นต้น

setup washmachine colorguard

สังเกตฉลากที่ติดมากับเสื้อผ้า

ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะหลายคนมักจะละเลยเผลอไปตัดป้ายคำแนะนำเหล่านี้ทิ้ง โดยเฉพาะกับเสื้อผ้าที่ต้องดูแลและใส่ใจเป็นพิเศษ ที่สำคัญเสื้อผ้าที่มีความพิเศษเหล่านี้มักจะมีข้อห้ามหรือกฎในการซักที่แตกต่างออกไป และที่พบบ่อยๆ มักจะเป็นเสื้อผ้าที่มีราคาค่อนข้างสูงอีกด้วย ดังนั้นถ้าไม่อ่านฉลากการซักให้ดี เสื้อผ้าที่ทั้งแพงทั้งสวยก็อาจจะพังเอาได้ง่ายๆ อย่างเช่น ป้ายที่เขียนว่า ‘Dry Clean Only’ จะแปลว่าเสื้อผ้าตัวนี้ต้องส่งซักแห้งเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าประเภทผ้าไหม ผ้าวูล ผ้าลินินเป็นต้น ป้าย ‘Wash Cold’ หรือป้ายให้ซักในน้ำเย็น/อุณหภูมิปกติ อาจจะเหมาะกับเนื้อผ้าบางชนิด เพราะหากซักในน้ำร้อนผ้าอาจจะหดได้ ดังนั้นก่อนจะตัดป้ายเหล่านี้ทิ้ง ควรศึกษาและจำรายละเอียดให้ดีเสียก่อน

label clothes colorguard

การทดสอบเฉพาะจุดป้องกันเนื้อผ้าเสียหาย

บางคนมีชุดสวยราคาสูง แต่ไม่มั่นใจว่าน้ำยาซักผ้าที่มีอยู่จะทำให้เนื้อผ้าเสียหายหรือไม่ ดังนั้นหากกลัวว่าชุดสวยของคุณพัง แนะนำให้ทำการทดสอบเฉพาะจุดก่อนที่จะซักจริง วิธีทดสอบก็ทำได้ไม่ยาก เพียงนำคอตตอนบัดหรือสำลีชุดน้ำยาขจัดคราบที่คุณมีอยู่ไปป้ายลงบนส่วนเล็กๆ ของเสื้อผ้าซึ่งอาจจะเป็นจุดที่มองไม่เห็น เช่น ชายเสื้อ ชายกระโปรงด้านใน พอป้ายเสร็จให้ลองสังเกตว่าหากสีของเสื้อผ้านั้นติดสำลีออกมาหรือไม่  เพราะถ้าหากติดออกมาแสดงว่าน้ำยาที่จะใช้อาจจะไม่เหมาะสม หรืออาจจะต้องเลือกออพชั่นในการซักแห้งแทนจะดีที่สุด

damaged cloth  colorguard

แยกสีผ้าไม่พอควรทดสอบผ้าสีตกก่อนด้วย

ได้เสื้อผ้ามาใหม่ๆ สีสันแสนสดใส แต่ทำให้หวั่นใจว่าสีจะตกหรือไม่ ดังนั้นก่อนที่จะโยนลงเครื่องซักผ้าพร้อมกับผ้าชนิดอื่นๆ เพื่อความมั่นใจแนะนำให้เราเทสต์เสียก่อนว่าเสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่นั้นมีปัญหาเรื่อง ‘สีตก’ หรือไม่ วิธีง่ายๆ ก็เพียง แช่ผ้าผืนนั้นลงในถังที่มีน้ำ แล้วทิ้งไว้ราวๆ 30 นาที แค่นี้ก็รู้ผลแล้ว เพราะหากผ้าสีตก เราจะสังเกตเห็นได้เลยว่าสีของผ้าตัวนั้นจะซึมลงไปในน้ำ ส่วนคนไหนที่งานยุ่งจนไม่มีเวลามานั่งแยกซักผ้าสีตกของตัวเอง ปัจจุบันก็มีทั้งเทคนิคและวิธีต่างๆ มากมายในการป้องกันเสื้อผ้าสีตก เช่น การเลือกใช้แผ่นดูดสีตก หรือจะลองใช้วิธีแบบคุณแม่บ้านสมัยก่อนอย่างเช่น การใช้เกลือ หรือน้ำส้มสายชูก็ทำได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่สะดวกมากนักเพราะต้องเสียเวลาในการแช่ผ้านานหลายชั่วโมง

bleed color cloth

ขจัดคราบสกปรกอย่างทรงพลัง

วิธีที่ได้ผลที่สุดในการขจัดคราบไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้าก็คือ ต้องรีบกำจัดคราบเหล่านั้นก่อนที่มันจะเซ็ตตัวลงบนเสื้อผ้า ยิ่งขจัดคราบได้เร็ว โอกาสในการเกิดคราบฝังลึกก็น้อยลงเท่านั้น ปัจจุบันมีน้ำยาขจัดคราบออกมามากมาย ซึ่งแนะนำให้ป้ายน้ำยาขจัดคราบเหล่านี้ลงบนเสื้อผ้าให้เร็วที่สุด จากนั้นแนะนำให้แช่ในน้ำเย็น แต่สำหรับเสื้อผ้าที่สกปรกมากเป็นพิเศษหรือมีคราบที่แข็งและทำความสะอาดยากจะแนะนำให้ใช้น้ำอุ่น และหากยังมีคราบหลงเหลืออยู่ ให้ทำซ้ำขั้นตอนข้างต้น อย่าเพิ่งนำผ้าไปอบจนกว่าคราบจะออกหมดจดเป็นอันขาด

remove stains color guard

หมดกังวลกับผ้าสีตก ไม่ต้องมาแยกซักเสื้อผ้าให้เสียเวลาเปลืองน้ำ เปลืองพลังงาน เพราะด้วยเทคโนโลยีการดูดสีตกของ Color Guard จะช่วยดักจับสีผ้าตกขณะซักผ้า เป็นการช่วยดูแลสีผ้า รักษาสีเดิมให้สดใสเหมือนใหม่อยู่เสมอ ลืมไปเลยว่าเคยสีตก ใช้งานง่ายได้ทั้งซักเครื่องและซักมือ

Phone

(66) 846996996

Location

Vibhavadi 60
Bangkok,Thailand 10210

Email

support@colorguard.in.th

Store Hours

M-F: 8am - 5pm
S-S: 9am - 4pm